หน้าร้อนของประเทศไทยมาพร้อมกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นและแสงแดดที่จัด ซึ่งนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจหันมาพิจารณาการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์เพื่อลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวการเกิด โซล่าเซลล์ไฟไหม้ ที่ปรากฏขึ้นเป็นระยะที่อาจสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการ บทความนี้ SOLAR WING ได้รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงของ โซล่าเซลล์ไฟไหม้ มาฝากทุกคนกัน
อากาศร้อนส่งผลต่อโซล่าเซลล์อย่างไร?
ความเป็นจริงแล้ว แผงโซล่าเซลล์ถูกออกแบบให้ทนทานต่อทั้งความร้อนและความเย็นได้ในระดับที่ค่อนข้างมาก โดยทั่วไปแผงโซล่าเซลล์ที่ได้มาตรฐานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยในช่วงอุณหภูมิ -40 ถึง 85 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิในประเทศไทยแม้ในช่วงหน้าร้อนที่ร้อนที่สุด (40-42 องศาเซลเซียส) แต่ทั้งนี้ความร้อนอาจส่งผลกระทบด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของโซล่าเซลล์ในบางด้าน ดังนี้
1. อุณหภูมิสูงกับประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า
แม้โซล่าเซลล์จะต้องการแสงแดดในการผลิตไฟฟ้า แต่ความร้อนที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของแผง โดยค่าเฉลี่ย แผงโซล่าเซลล์จะสูญเสียประสิทธิภาพราว 0.3-0.5% ต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 1 องศาเซลเซียสเหนือจาก 25 องศาเซลเซียส นั่นหมายความว่า หากอุณหภูมิผิวแผงอยู่ที่ 45 องศาเซลเซียส (สูงกว่า 25 องศา อยู่ 20 องศา) ประสิทธิภาพอาจลดลงประมาณ 6-10% เมื่อเทียบกับสภาวะแบบปกติ
2. อุณหภูมิแผงโซล่าเซลล์อาจสูงกว่าอากาศรอบข้าง
ในวันที่อากาศร้อนจัด 40 องศา อุณหภูมิของผิวแผงโซล่าเซลล์อาจสูงได้ถึง 60-70 องศาเซลเซียส เนื่องจากแผงต้องรับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน ซึ่งค่าความร้อนนี้จะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานในรูปของความร้อนมากขึ้น และระบบไฟฟ้าจะมีความต้านทานเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุให้ตัวนำไฟฟ้าทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นหากไม่มีการระบายอากาศหรือออกแบบโครงสร้างติดตั้งอย่างเหมาะสม
3. อากาศร้อนกับไฟไหม้โซล่าเซลล์
แม้อุณหภูมิที่สูงจะเพิ่มการทำงานที่มากขึ้นให้แก่ระบบไฟฟ้า แต่สาเหตุหลักที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้โซล่าเซลล์มักมาจากการติดตั้งที่ไม่ถูกต้อง อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน หรือการเสื่อมสภาพของส่วนประกอบต่าง ๆ (เช่น สายไฟ อินเวอร์เตอร์ ขั้วต่อ) มากกว่าจะมาจากความร้อนโดยตรง ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องหมั่นตรวจสอบการทำงานของระบบอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจสอบสายไฟ สายเชื่อมต่อ ข้อต่อ MC4 หรือสายดิน (Grounding) ให้อยู่ในสภาพที่ได้มาตรฐาน
4. การระบายอากาศใต้แผงโซล่าเซลล์
หนึ่งในวิธีลดความร้อนสะสม คือการออกแบบโครงสร้างติดตั้งให้มีช่องระบายอากาศเพียงพอ ช่วยให้ความร้อนที่เกิดขึ้นใต้แผงสามารถระบายออกได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะช่วยรักษาระดับอุณหภูมิแผงให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสมแล้ว ยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าได้อีกด้วย
5. ความร้อนสูงทำให้เกิดความเครียดกับระบบไฟฟ้า
ในแง่ของระบบไฟฟ้าทั่วไป ความร้อนจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ เบรกเกอร์ ฟิวส์ หรือขั้วต่อ เมื่ออุณหภูมิสูง ความต้านทานจะเพิ่มขึ้น การสูญเสียพลังงานในรูปความร้อนก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ชิ้นส่วนเหล่านี้เสื่อมเร็วขึ้นหากไม่ได้รับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน หรือถูกติดตั้งในตำแหน่งที่มีการระบายอากาศไม่ดี
โดยสรุปแล้ว “ความร้อน” ไม่ใช่ตัวการหลักที่ทำให้โซล่าเซลล์ไฟไหม้ แต่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ลดทอนประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าและเร่งให้ชิ้นส่วนในระบบไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
สาเหตุที่อาจทำให้ โซล่าเซลล์ไฟไหม้

1. การติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน
ระบบสายไฟ
- การใช้สายไฟที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับกระแสไฟฟ้า ทำให้สายไฟร้อนเกินและเกิดไฟไหม้ได้
- การเดินสายไฟโดยไม่มีท่อร้อยสายหรือการป้องกันที่เหมาะสม ทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพเร็ว
- การใช้ขั้วต่อ (Connectors) ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่เข้ากันกับอุปกรณ์
- การต่อสายไฟไม่แน่นหนา ทำให้เกิดจุดหลวม ซึ่งเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านจะเกิดความร้อนสูงเฉพาะจุด
การเชื่อมต่อทางไฟฟ้า
- การต่อขนานหรือต่ออนุกรมแผงโซล่าเซลล์ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดกระแสไฟไม่สมดุล
- การไม่มีไดโอดป้องกันกระแสไหลย้อนกลับ (Blocking Diodes) หรือไดโอดบายพาส (Bypass Diodes)
- การต่อสายดินไม่ถูกต้องหรือไม่มีการต่อสายดิน
ระบบป้องกัน
- การไม่ติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดความผิดปกติ เช่น DC Breaker, AC Breaker
- การไม่ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection Devices – SPD)
- การใช้ฟิวส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ที่มีขนาดไม่เหมาะสม
2. คุณภาพของอุปกรณ์
แผงโซล่าเซลล์คุณภาพต่ำ
- แผงที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น มอก., UL, IEC
- แผงที่ใช้วัสดุไม่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น แผ่นปิดด้านหลัง (backsheet) คุณภาพต่ำ
- การผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การเชื่อมต่อภายในแผงไม่แข็งแรง
อินเวอร์เตอร์คุณภาพต่ำ
- อินเวอร์เตอร์ที่ไม่มีระบบป้องกันความร้อนที่ดีพอ
- อินเวอร์เตอร์ที่ไม่มีระบบตรวจจับและป้องกันความผิดปกติ เช่น Arc Fault Detection
- การระบายความร้อนไม่เพียงพอ
อุปกรณ์ประกอบระบบคุณภาพต่ำ
- ขั้วต่อสายไฟคุณภาพต่ำที่อาจหลวมหรือเสื่อมสภาพเร็ว
- กล่องรวมสาย (Combiner Box) ที่ไม่มีการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ได้คุณภาพ
- อุปกรณ์ป้องกันที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น เซอร์กิตเบรกเกอร์ราคาถูกที่ไม่ตัดไฟเมื่อเกิดกระแสเกิน
3. ขาดการบำรุงรักษา
การสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก
- ฝุ่นที่สะสมบนแผงซึ่งนอกจากจะลดประสิทธิภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดจุดร้อนเฉพาะที่ (Hot Spots)
- สิ่งสกปรก เช่น มูลนก ใบไม้ ที่อาจบดบังแสงเฉพาะจุดและทำให้เกิดความไม่สมดุลในการผลิตไฟฟ้า
การเสื่อมสภาพของอุปกรณ์
- สายไฟที่ฉนวนเสื่อมสภาพจากการโดนแดดและฝนเป็นเวลานาน
- จุดต่อสายไฟที่หลวมซึ่งอาจเกิดประกายไฟ
- ซีลยางกันน้ำที่เสื่อมสภาพทำให้ความชื้นเข้าไปในระบบได้
อุปกรณ์ป้องกันที่เสื่อมประสิทธิภาพ
- อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากที่เสื่อมสภาพจากการทำงานในสภาวะที่มีฟ้าผ่าบ่อย
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ที่เคยทำงานหนักและอาจไม่ตัดไฟเมื่อเกิดกระแสเกินในครั้งต่อไป
4. ปัญหาเฉพาะจุด (Hot Spots)
สาเหตุของการเกิดจุดร้อน
- เซลล์บางส่วนถูกบังแสง เมื่อเซลล์บางส่วนถูกบังแสง (เช่น จากเงาของต้นไม้หรือสิ่งก่อสร้าง) แต่เซลล์อื่นๆ ยังรับแสงปกติ จะทำให้เกิดความไม่สมดุลของกระแสไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้เซลล์ที่ถูกบังแสงกลายเป็นตัวต้านทานและร้อนจัด
- เซลล์ที่เสียหาย เซลล์ที่แตกร้าวหรือเสียหายจะมีความต้านทานสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดความร้อนสูงเฉพาะจุด
- การเชื่อมต่อภายในแผงที่ไม่ดี การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดความต้านทานสูงและความร้อนเฉพาะจุด
ผลกระทบของจุดร้อน
- การเสื่อมสภาพเร่งด่วน จุดร้อนทำให้วัสดุในบริเวณนั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
- การลุกลามของความเสียหาย จุดร้อนที่ไม่ได้รับการแก้ไขจะค่อยๆ ขยายพื้นที่ความเสียหาย
- การลุกไหม้ ในกรณีร้ายแรง จุดร้อนอาจร้อนถึงขั้นทำให้วัสดุติดไฟได้
เตรียมพร้อมโรงงานลดความเสี่ยง โซล่าเซลล์ไฟไหม้
1. ตรวจสอบระบบและทำความสะอาด
ให้ทีมวิศวกรหรือช่างเข้าตรวจสอบแผงโซล่าเซลล์ อินเวอร์เตอร์ ตู้ไฟฟ้า เช็กความสมบูรณ์ของสายไฟและขั้วต่อ อีกทั้งควรทำความสะอาดแผง กำจัดฝุ่น ใบไม้ หรือเศษวัสดุที่ติดค้างตามซอกต่าง ๆ รวมทั้งเคลียร์พื้นที่ใต้หลังคาหรือบนหลังคาให้เรียบร้อย
2. เช็กการทำงานของอุปกรณ์ป้องกัน
ทดสอบเบรกเกอร์ ฟิวส์ ระบบป้องกันไฟกระชาก (SPD) และตรวจว่า AFCI (ถ้ามี) สามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่ อีกทั้งควรดูค่าการผลิตไฟฟ้าจากระบบมอนิเตอร์ ว่าตรงตามปกติหรือไม่ หากมีแนวโน้มตกลงผิดปกติ ควรรีบหาสาเหตุ หรือแจ้งบริษัทที่ติดตั้ง
3. จัดทำแผนฉุกเฉินและช่องทางติดต่อ
ให้ความรู้ทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือผู้ดูแลอาคารให้ทราบถึงวิธีปิดระบบไฟโซล่าเซลล์ในกรณีเกิดเหตุด่วน เตรียมเบอร์ติดต่อผู้ติดตั้งหรือวิศวกรที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ หากตรวจพบสัญญาณเตือนหรือระบบแจ้งเตือนว่ามีความผิดปกติ
4. ใช้ระบบมอนิเตอร์ออนไลน์
หากอินเวอร์เตอร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต สามารถดูค่าการผลิตไฟฟ้าและสถานะการทำงานของแผงได้ตลอดเวลา แม้ในช่วงหยุดยาว เมื่อเกิดการแจ้งเตือนหรือค่าไฟผิดปกติ ระบบอาจส่งข้อความหรืออีเมลแจ้งเตือน ทำให้เจ้าของโครงการสามารถประสานงานแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
5. คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
ตรวจสอบว่ามีการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าระหว่างโซล่าเซลล์กับกระบวนการผลิตบางส่วนหรือไม่ หากจำเป็นต้องปิดระบบเครื่องจักรในช่วงหยุดยาว ควรปิดระบบโซล่าเซลล์อย่างถูกวิธีและตามขั้นตอนที่วิศวกรกำหนดรวมไปถึงตรวจสอบว่ามีวัสดุไวไฟหรือสารเคมีที่อาจเสี่ยงทำให้เพลิงไหม้แพร่กระจายง่ายหรือไม่ ควรจัดเก็บให้เรียบร้อยก่อนหยุดยาว
วิธีเลือกบริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ได้มาตรฐาน
1. มาตรฐานและใบรับรอง
- ตรวจสอบว่าบริษัทมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (กว.) หรือใบอนุญาตอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น มีวิศวกรไฟฟ้าคอยดูแลด้านงานออกแบบและควบคุมการติดตั้ง
- มีใบรับรองมาตรฐาน ISO หรือใบรับรองจากหน่วยงานผู้ผลิตอุปกรณ์โซล่าเซลล์ เพื่อยืนยันความเชี่ยวชาญ
2. ทีมช่างและวิศวกรผู้มีประสบการณ์
- บริษัทมืออาชีพควรมีพนักงานที่เคยผ่านงานติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ในโครงการขนาดต่าง ๆ ทั้งระดับครัวเรือน อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรม
- ตรวจสอบผลงานอ้างอิง (Reference Projects) และรีวิวจากลูกค้าจริง เพื่อดูคุณภาพของงานติดตั้งและบริการหลังการขาย
3. การรับประกัน (Warranty) และบริการหลังการขาย (After-Sales Service)
- แผงโซล่าเซลล์ส่วนใหญ่มักมี “Product Warranty” ประมาณ 10-12 ปี และ “Performance Warranty” (การรับประกันกำลังการผลิต) อาจยาวถึง 25-30 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
- อินเวอร์เตอร์ที่ดีมักมีการรับประกัน 5-10 ปี และสามารถขยายระยะเวลาได้หากต้องการ
- บริษัทติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ควรมีการรับประกันงานติดตั้ง (Installation Warranty) เพิ่มเติมให้ลูกค้า เช่น 1-2 ปีหรือมากกว่านั้น รวมทั้งมีบริการซ่อมบำรุงหรือ Service Contract ระยะยาว
นอกจากนี้บริษัทที่น่าเชื่อถือจะแจ้งรายละเอียดอุปกรณ์ รวมถึงเหตุผลในการเลือกใช้แผงหรืออินเวอร์เตอร์ยี่ห้อต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา มีการวิเคราะห์ผลตอบแทน (ROI) จากระบบโซล่าเซลล์อย่างสมเหตุสมผล ไม่โอ้อวด หรือประเมินเกินจริงจนผิดวิสัย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ในหน้าร้อน
Q: โซล่าเซลล์ทำให้หลังคาบ้านร้อนขึ้นหรือไม่?
A: โซล่าเซลล์ช่วยปกป้องหลังคาจากแสงแดดโดยตรง ทำให้อุณหภูมิใต้หลังคาเย็นลงประมาณ 3-5 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับหลังคาที่ไม่มีแผงโซล่าเซลล์
Q: อายุการใช้งานของแผงโซล่าเซลล์จะลดลงเมื่อใช้งานในอากาศร้อนจัดหรือไม่?
A: แผงโซล่าเซลล์คุณภาพดีได้รับการออกแบบให้ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี อายุการใช้งานโดยทั่วไปอยู่ที่ 25-30 ปี แม้จะใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน
Q: ฝนฟ้าคะนองในหน้าร้อนมีผลต่อความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้หรือไม่?
A: ระบบโซล่าเซลล์ที่ได้มาตรฐานจะมีระบบป้องกันฟ้าผ่าและไฟกระโชก ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายจากฝนฟ้าคะนองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q: ควรปิดระบบโซล่าเซลล์ในวันที่อากาศร้อนจัดหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น ระบบโซล่าเซลล์ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ในอุณหภูมิสูง แม้ประสิทธิภาพจะลดลงเล็กน้อย แต่การปิดระบบจะทำให้เสียโอกาสในการผลิตไฟฟ้า
Q: ระบบโซล่าเซลล์ต้องการการบำรุงรักษาบ่อยแค่ไหน?
A: ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และทำความสะอาดแผงทุก 3-6 เดือนหรือเมื่อสกปรก
สรุปโซล่าเซลล์หน้าร้อนปลอดภัยหรือไม่?
ระบบโซล่าเซลล์ที่ได้มาตรฐานและได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องมีความปลอดภัยสูงมาก แม้ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด ความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ไม่ได้มาจากอุณหภูมิสูงโดยตรง แต่มาจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน การใช้อุปกรณ์คุณภาพต่ำ และการขาดการบำรุงรักษาที่เหมาะสม
การเลือกบริษัทติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์คุณภาพสูง พร้อมทั้งบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ท่านสามารถใช้งานระบบโซล่าเซลล์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แม้ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด
ด้วยการติดตั้งและบำรุงรักษาที่ถูกต้อง ท่านจะสามารถมั่นใจได้ว่าระบบโซล่าเซลล์ของท่านจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้
SOLAR WING ผู้ให้บริการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มาตรฐานและครบวงจร

หากธุรกิจกำลังพิจารณาการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และต้องการผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และให้บริการครบวงจร SOLAR WING คือหนึ่งในตัวเลือกชั้นนำที่ควรพิจารณา
- ให้บริการครบวงจร (One Stop Service) ไม่ต้องวิ่งเอกสารหลายรอบ เราดูแลให้ตั้งแต่การประเมินหลังคา จนถึงการยื่นเอกสารขออนุญาต
- ทีมงานวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทั้งวิศวกรโยธาและไฟฟ้า พร้อมเซ็นรับรองแบบเพื่อตอบโจทย์ “กฎหมายการติดตั้งโซล่าเซลล์” ได้อย่างสมบูรณ์
- อุปกรณ์คุณภาพสูง แผงโซล่าเซลล์และอินเวอร์เตอร์ผ่านมาตรฐานสากล ติดตั้งโดยมืออาชีพ
- ประสบการณ์ติดตั้งให้กับลูกค้าหลากหลายเคส เรามีผลงานจริงทั้งบ้านขนาดเล็กไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่ พร้อมรีวิวความพึงพอใจจากลูกค้าหลายราย
- ดูแลหลังการขาย มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากมีปัญหาหรือสงสัย ติดต่อเราได้ทันที
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่สนใจจะติดตั้งโซลล่าเซลล์ไว้ที่ร้านค้า สำนักงาน หรือโรงงาน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์ สามารถสอบถามข้อมูลของบริการ One Stop Services เพิ่มเติมกับ SOLAR WING ได้เสมอ ยินดีให้คำปรึกษาครบทุกเรื่องโซล่าเซลล์ [คลิกเลยที่นี่]
SOLAR WING ผู้ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง และดูแล บำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร เราคือ ผู้นำ ด้านธุรกิจโซลาร์เซลล์ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยได้เข้าถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ อย่างแพร่หลาย มั่นคง และยั่งยืน ทุกขั้นตอนจะเป็นเรื่องง่ายไม่ยุ่งยาก เราพร้อมดูแลจัดการ ประเมินออกแบบให้ลูกค้าพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจติดตั้ง SOLAR WING พลังงานเพื่ออนาคต ติดต่อขอรับคำปรึกษาจาก SOLAR WING ได้ที่ Email: info@solarwing.co หรือ โทร 080-3299777
ที่มา